ปัจจุบันนี้เครื่องมือช่าง หรือว่าวัสดุก่อสร้าง พัฒนาไปไกลมากกว่าแต่ก่อน และสามารถหาซื้อได้ง่าย สะดวกมากยิ่งขึ้น จนบางครั้งในการก่อสร้างหรือการต่อเติมอะไรเล็กๆ น้อยๆ ภายในบ้าน คุณเองก็สามารถทำได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งผู้รับเหมา สำหรับใครที่กำลังจะก่อกำแพง หรืออยากจะเทปูนบนพื้นในบางจุดของบ้าน เพื่อปรับปรุงพื้นให้ดีขึ้น ด้วยการผสมคอนกรีตเอง แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มยังไง และถ้าผสมควรจะใช้อัตราส่วนเท่าไหร่
วันนี้ MTcement จะพาคุณมารู้จักกับวิธี “ผสมคอนกรีต” แบบเบื้องต้น เพื่อที่คุณจะได้นำไปผสมแล้วเหมาะกับงานนั้นๆ ทำให้มีความแข็งแรง ทนทาน และสามารถใช้งานได้ในระยะยาว!
คอนกรีตหรือปูน?

มีใครเคยได้ยินคำว่า “ผสมคอนกรีต” หรือ “เทปูน” บ้างหรือเปล่า? ถ้าหากคุณเคยได้ยินคำเหล่านี้ จนเริ่มสร้างความสับสนแล้วว่า คอนกรีตคืออะไร แล้วปูนมีหน้าที่การทำงานต่างจากคอนกรีตอย่างไร สองอย่างนี้คืออันเดียวกันหรือไม่ วันนี้เราจะมาช่วยคุณไขข้อสงสัยกันก่อน
- ปูนซีเมนต์ มีส่วนประกอบของสารต่างๆ มากมาย โดยสารเหล่านั้นจะเป็นตัวช่วยที่ประสาน หรือยึดให้ส่วนผสมอื่นๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งปูนซีเมนต์จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ “ปูนงานโครงสร้าง” ที่เน้นเรื่องของความแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ดี และ “ปูนงานตกแต่ง” ที่จะใช้กับการก่อหรือฉาบ เป็นเรื่องของการยึดเกาะมากกว่า
- คอนกรีต จะนำไปใช้กับงานโครงสร้างเป็นหลัก ซึ่งจะมีส่วนผสมของปูนงานโครงสร้าง, ทราย, หิน และน้ำ ซึ่งหลังจากนำไปผสมกันเสร็จแล้ว พอเอาปูนไปเท และปล่อยทิ้งเอาไว้จนแห้ง ก็จะกลายเป็นคอนกรีต และถ้าหากว่าใครต้องการให้โครงสร้างมีความแข็งแรงมากขึ้นไปอีก ก็สามารถนำคอนกรีตไปใช้กับเหล็กเสริมได้อีกด้วย
> อ่านบทความ คอนกรีต คือ มีกี่ประเภท เพิ่มเติมได้ที่นี่<<
วิธีในการ ผสมคอนกรีต
การผสมคอนกรีต จะช่วยให้ส่วนประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปูน, ทราย, หิน และน้ำ รวมตัวกันจนกลายเป็นของเหลว ที่ช่วยให้คุณสามารถนำไปหล่อคอนกรีต ให้ได้โครงสร้างตามที่ต้องการ และสะดวกมากยิ่งขึ้น ถ้าอยากรู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร ไปดูกันเลยดีกว่า!
สัดส่วนในการผสม

ตามหลักของการผสมคอนกรีต ส่วนใหญ่แล้วจะขึ้นอยู่กับโครงสร้างว่า ต้องการให้คอนกรีตมีความหนาแน่นเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมในการรองรับน้ำหนัก เพื่อให้อาคารมีความแข็งแรง และสามารถรับน้ำหนักได้ทั้งหมด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีการกำหนดสัดส่วนในการผสมที่แตกต่างกันออกไปตามการใช้งาน คือ
- งานพื้นหรือคาน อัตราส่วน 1 : 2 : 4 (ปูน : ทราย : หิน) จะเป็นการผสมแบบขั้นพื้นฐาน มีระดับความหนาแน่นแบบเริ่มต้น
- งานโครงสร้างหรือเสา อัตราส่วนอยู่ที่ 1 : 1.5 : 3 มีความหนาแน่นที่ดีในระดับหนึ่ง เพราะจะต้องรองรับน้ำหนักได้
- งานฐานหรือถนน อัตราส่วนอยู่ที่ 1 : 2.5 : 4 รองรับน้ำหนักได้ดีมาก เพราะต้องรองรับการกระแทกอยู่ตลอดเวลา เช่น การทำถนน
คอนกรีตผสมมือ

สำหรับคอนกรีตผสมมือ ถือว่าเป็นการผสมที่คุณเองก็สามารถทำได้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีช่างทำให้เสมอไป เพราะตามร้านที่จำหน่ายวัสดุก่อสร้างครบวงจร จะมีทุกอย่างที่เราต้องการ ซึ่งของที่จะต้องซื้อนั่นก็คือ
- ส่วนผสมหลัก เตรียมปูน, ทราย, หิน และน้ำ
- กระบะผสมปูน จะมีขนาดใหญ่ ช่วยให้คุณสามารถใส่ส่วนผสมต่างๆ รวมกันในนี้ได้
- พลั่ว หรือจอบ เอาไว้ใช้คลุกส่วนผสมภายในกระบะให้กลายเป็นเนื้อเดียวกัน
- ถังปูนพลาสติก สามารถใส่น้ำในถัง แล้วค่อยๆ เทน้ำ เพื่อทำการผสม หรือตอนที่อยากจะใช้ปูนก็นำถังนี้ไปตักได้
- บุ้งกี๋ ส่วนมากจะเอาไว้ใช้กับการตักทราย และหิน เป็นส่วนใหญ่
วิธีในการผสม
- ก่อนที่จะเริ่มนำปูนไปใส่ในกระบะ ควรจะใส่หน้ากากก่อน เพื่อเป็นการป้องกันการสูดดมฝุ่นของปูนเข้าไป
- ใส่ปูน และทรายลงไปในกระบะ ตามอัตราส่วนที่เหมาะสม แล้วทำหลุมตรงกลาง เพื่อให้สะดวกต่อการใส่น้ำ หลังจากนั้นปล่อยทิ้งเอาไว้สัก 10 – 15 นาที
- เมื่อถึงเวลาที่ต้องทำการผสม ให้นำพลั่วหรือจอบ ผสมน้ำ, ทราย และปูนผสมให้เข้าที่ก่อน
- หลังจากนั้นให้ค่อยๆ ใส่หินลงไป เช่น เราจะต้องใส่หินไปทั้งหมด 3 ถัง ให้ใส่ทีละ 1 ถัง แล้วทำการคนให้เข้าที่ ถึงจะใส่ถังต่อไปได้
- เมื่อผสมครบหมดทุกอย่างแล้ว ถือว่าเป็นอันเสร็จเรียบร้อย สามารถนำปูนไปใช้งานได้เลย
***อัตราส่วนขึ้นอยู่กับผู้ใช้งาน***
ข้อดี – ข้อเสียของการใช้คอนกรีตผสมมือ

ข้อดี
- สามารถผสมปูนงานตกแต่งก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นงานโครงสร้างเสมอไป
- เหมาะที่จะนำไปใช้ในยามฉุกเฉิน เมื่อเวลาที่สั่งปูนผสมเสร็จมาแล้วไม่เพียงพอต่อการใช้งาน อาจจะขาดปูนเพียงเล็กน้อย สามารถผสมเพิ่มเองได้
- ลดต้นทุนในเรื่องของค่าแรง ที่จะต้องจ้างช่างให้มาทำงานให้
ข้อเสีย
- ต้องมีความรู้พื้นฐาน เพราะอัตราส่วนในการผสม มีความสำคัญต่อโครงสร้างมากๆ
- สำหรับใครที่ไม่มีอุปกรณ์ หรือว่าวัสดุก่อสร้าง จะค่อนข้างยุ่งยากกับการเตรียมอุปกรณ์
- การที่เราผสมปูนเอง จะทำให้ใช้เวลามากกว่า เพราะจะต้องเตรียมอุปกรณ์ก่อน ถึงจะเริ่มทำการผสมได้
- ถ้าใส่น้ำมากเกินไป ปูนจะเหลวมากกว่าปกติ มีผลกระทบต่อความหนาแน่นของโครงสร้าง
- เสียค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น สำหรับใครที่ไม่มีอุปกรณ์ จะต้องซื้อใหม่ทั้งหมด
คอนกรีตผสมเครื่อง

คอนกรีตที่ผสมในเครื่อง สำหรับบุคคลทั่วไปจะไม่ค่อยได้ใช้กันสักเท่าไหร่ เพราะส่วนมากจะใช้กับโครงการที่มีการก่อสร้าง เวลานำเครื่องผสมคอนกรีตไปใช้งาน จะต้องให้ช่างที่มีความรู้ ความชำนาญใช้ ซึ่งเครื่องจะมีด้วยกันอยู่ 4 ชนิด คือ
- Tilting Mixers ลักษณะของถังจะคล้ายกับทรงกรวย เพราะที่ฐานจะกว้าง ส่วนปากถังจะแคบ ในถังมีใบพัดอยู่ข้างใน คอยผสมส่วนต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยมีมือหมุนอยู่ที่ด้านข้าง เอาไว้สำหรับปรับองศาถัง เพื่อเทปูนใส่กระบะหรือบนพื้นที่ต้องใช้ปูน
- Non-Tilting Mixers ถังจะเป็นทรงกรวยเหมือนกัน แต่ว่าตัวถังจะไม่สามารถเอียงได้ อยู่ในลักษณะของแนวนอน ภายในถังมีใบพัด ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่า ตัวเครื่องมีช่องสำหรับใส่ส่วนผสม และช่องที่ผสมปูนเสร็จแล้ว
- Reversing Drum Mixers ตัวเครื่องจะคล้ายกับ Non-Tilting Mixers แต่จะมีกลไกที่ไม่เหมือนกัน เพราะเวลาที่เครื่องเริ่มทำงาน ภายในถังจะมีส่วนที่กำลังหมุนเพื่อผสม และอีกส่วนที่ผสมเสร็จแล้วเทออกมา โดยเครื่องนี้จะนำไปใช้กับการก่อสร้างขนาดใหญ่
- Pan Types Mixers จะมีรูปทรงของถัง แตกต่างมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะมาในทรงกระบอก มีความสูงไม่มาก ปากถังจะหันขึ้นด้านบน เพื่อให้ใส่ส่วนผสมต่างๆ ลงไปได้ ทำการผสมด้วยใบพัด มีที่บังคับหรือมือหมุนให้เทปูนได้เช่นกัน
วิธีการใช้งานของ Tilting Mixers และ Pan Types Mixers เหมือนกันตรงที่คุณจะต้องใส่ส่วนผสมลงไปเอง แต่ Non-Tilting Mixers และ Reversing Drum Mixers จะมีช่องให้เราใส่ส่วนผสมเอาไว้ก่อน เวลาที่เครื่องเริ่มทำงานก็จะเทส่วนประกอบเหล่านั้นเข้าไปผสมให้
ข้อดี – ข้อเสียของการใช้คอนกรีตผสมเครื่อง

ข้อดี
- ไม่เสียเวลากับการผสม เพียงแค่ใส่ส่วนประกอบต่างๆ เข้าไปก็จะผสมให้เลย
- สามารถคลุกเคล้าส่วนประกอบต่างๆ ภายในเครื่องได้ดี ไม่ต้องกังวลว่าจะเกาะตัวกันเป็นก้อนในบางส่วน
- มีล้อที่เครื่อง ถ้าผสมเสร็จแล้ว สามารถเคลื่อนย้าย ให้เครื่องไปอยู่ในจุดที่ต้องการเทปูนได้
- นำไปใช้กับงานก่อสร้างขนาดใหญ่ได้ เพราะถังผสมมีขนาดที่หลากหลาย เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม
ข้อเสีย
- จะต้องหมั่นบำรุงรักษาเครื่องผสม เพื่อป้องกันไม่ให้เสียระหว่างที่กำลังใช้งานอยู่ จนทำให้เกิดความล่าช้า
- การใช้งานเครื่องจะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ที่มีประสบการณ์ เพื่อไม่ทำให้เครื่องเกิดความเสียหาย และไม่ทำให้ปูนมีส่วนผสมที่ผิด จนส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงของโครงสร้าง
- ตัวเครื่องมีราคาค่อนข้างสูง ขึ้นอยู่กับขนาดของถังว่ามีขนาดใหญ่มากแค่ไหน
- ถึงแม้ว่าจะมีล้อให้เข็นสะดวก แต่บางพื้นที่ก็ไม่อำนวย จนลำบากต่อการเคลื่อนย้ายเครื่องผสม
ควรจะผสมคอนกรีตเองดีไหม?
สำหรับการผสมคอนกรีต ถือว่าสามารถทำเองได้ แต่ผู้ที่ผสมจะต้องมีความรู้ เพราะการผสมปูนออกมาให้แข็งไม่ใช่เรื่องง่าย ในแง่ของอัตราส่วน เพราะถ้าเราไม่มีความรู้ ก็จะมีโอกาสทำให้คอนกรีตมีความหนาแน่นต่ำ เวลาที่นำไปใช้งาน ก็จะส่งผลกระทบให้โครงสร้างเปราะบาง เกิดความเสียหายได้ง่าย
แต่ถ้าใครรู้สึกว่า ไม่อยากจะผสมเองให้ยุ่งยาก และจะต้องใช้ปูนในปริมาณที่ค่อนข้างเยอะ ขอแนะนำให้ใช้คอนกรีตผสมเสร็จจะดีกว่า เพราะด้วยคุณภาพที่ตรงตามมาตรฐาน มีการผสมส่วนต่างๆ ในปริมาณที่เหมาะสมตามความหนาแน่นของโครงสร้างนั้นๆ จะช่วยทำให้สิ่งก่อสร้างมีความแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้ในระยะยาว หากคุณสนใจคอนกรีตผสมเสร็จ แต่ไม่รู้วิธีในการสั่งซื้อ ว่าจะต้องทำยังไงบ้าง MTcement ช่วยคุณได้!
อยากได้คอนกรีตผสมเสร็จ คุณภาพดี ต้องที่ MTcement !!
MTcement ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง วัสดุตกแต่ง ทั้งค้าส่ง และค้าปลีกเป็นเวลานานกว่า 40 ปี เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้ารายสำคัญของผู้ผลิตชั้นนำหลายแห่งมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่ดีกับผู้ผลิต
ส่งผลให้เรามีอำนาจในการต่อรองราคา และสามารถจำหน่ายสินค้าในราคา “กันเอง” หรือลูกค้าท่านใดที่ต้องการใช้สินค้าเป็นจำนวนมาก ทางเราสามารถต่อรองกับบริษัทผู้ผลิตเพื่อนำเสนอ “ราคาพิเศษ”
อีกทั้งยังมีทีมจัดสรรรถขนส่งเกือบทุกประเภท จากทั่วพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล เพื่อบริการคุณอย่างทั่วถึง เพราะเราใส่ใจเรื่องความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้า โดยถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
ติดต่อสอบถามข้อมูล และข้อสงสัยต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ เพิ่มเติมได้ที่นี่
Facebook: คอนกรีตผสมเสร็จ โดย เมืองไทยซีเมนต์
E-mail: info@mtcement.com
Line: @mtcement

