เพราะอะไร? ทำไมถึงต้อง บ่มคอนกรีต โพสต์เดียวจบ พร้อมบอกวิธีบ่ม

มีใครเคยผ่านบริเวณที่มีการก่อสร้าง แล้วเห็นคนกำลังฉีดน้ำไปที่โครงสร้างของคอนกรีต หรือว่านำกระสอบป่านมาคลุมให้ทั่ว และใช้น้ำรดกระสอบให้ชุ่มไปด้วยน้ำหรือเปล่า? บางคนอาจจะคิดว่าช่างกำลังทำความสะอาด ชำระล้างสิ่งสกปรกที่ติดอยู่กับคอนกรีตอยู่ แต่ความจริงแล้ว สิ่งที่คุณเห็นนั่นคือการ “บ่มคอนกรีต”

สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่า ทำไมถึงต้องมีการบ่มคอนกรีต และวิธีในการบ่มมีอะไรบ้าง วันนี้ MTcement จะพาคุณไปรู้จักกับการบ่มคอนกรีตให้มากขึ้น ว่ามีความสำคัญอย่างไร และมีความจำเป็นไหมที่จะต้องบ่ม ไปอ่านบทความนี้กันเลย!

 

การบ่มคอนกรีต คือ?

ก่อนที่จะพูดถึงการบ่มคอนกรีต คุณต้องเข้าใจก่อนว่า คอนกรีตเกิดจากการนำส่วนผสมต่างๆ ที่มีด้วยกันอยู่ 4 ชนิด คือ ปูนซีเมนต์, ทราย, หิน และน้ำ นำมาผสมกันให้เข้าที่ จนกลายเป็นของเหลว หลังจากนั้นก็จะนำปูนไปเทในโครงที่เตรียมเอาไว้ ให้ขึ้นรูปทรงเป็นโครงสร้าง และถ้าอยากจะเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้าง ก็จะกลายเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ถือว่าเป็นหนึ่งในกระบวนการของงานก่อสร้าง

แต่ว่าหลังจากที่คุณทำโครงสร้างเสร็จแล้ว ยังมีอีกหนึ่งกระบวนการที่ต้องทำทุกครั้ง นั่นก็คือ การบ่มคอนกรีต เพราะเวลาที่ปูนกำลังเชตตัวให้แข็งกลายเป็นคอนกรีต จะมีการคลายความชื้นออกมา และถ้ายิ่งเป็นอากาศในบ้านเรา ที่มีโอกาสเกิดความร้อนสูง ส่งผลกระทบให้น้ำที่อยู่ในคอนกรีตระเหยออกมาได้อย่างรวดเร็ว การบ่มจึ่งทำให้ช่วยรักษาระดับ ไม่ให้คอนกรีตคลายความชื้นออกมา และช่วยลดปัญหาของสารเคมีที่อยู่ในคอนกรีต ป้องกันการทำให้เหล็กเสริมเป็นสนิมได้ง่ายอีกด้วย

 

ทำไมถึงต้อง บ่มคอนกรีต

บ่มคอนกรีต

เพราะการบ่มจะช่วยให้คอนกรีตสามารถควบคุม และป้องกันไม่ให้สูญเสียความชื้นได้อย่างรวดเร็ว เพราะน้ำเป็นองค์ประกอบหลักสำหรับคอนกรีต ที่จะต้องทำให้เกิดปฏิกิริยาไฮเดรชั่น(hydration) ส่งผลให้ความหนาแน่นของคอนกรีตมีความแข็งแรง ไม่แตกหักได้ง่าย โดยระยะเวลาในการบ่มคอนกรีต ควรจะทำต่อเนื่องอย่างน้อย 7 วัน เพื่อเพิ่มกำลังอัดของคอนกรีตให้มากขึ้นเรื่อยๆ

ซึ่งกำลังอัดจะเพิ่มขึ้นสูงในช่วงแรก และถ้าผ่านไปสักพักก็จะเริ่มช้าลง แต่ก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกต่างๆ ที่เกิดขึ้น ว่าเราได้ทำให้คอนกรีตบ่มชื้นอยู่ตลอดเวลาหรือเปล่า ถ้าพูดตามหลักความเป็นจริง ในหน้างานก่อสร้างอาจจะไม่ได้ทำให้คอนกรีตบ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา จะมีบางช่วงบ้างที่คอนกรีตแห้ง เพราะถ้าต้องทำให้คอนกรีตชื้นหลายวันติดต่อกัน จะส่งผลให้การทำงานของการก่อสร้างช้าลง และค่าใช้จ่ายสูงมากขึ้น โดยระยะเวลาในการบ่มของแต่ละช่วง มีความแตกต่างกันในแง่ของกำลังอัด คือ

  • ไม่บ่มคอนกรีตเลย จะส่งผลให้กำลังอัดลดลง เหลืออยู่เพียงแค่ 55%
  • บ่มแบบขั้นต้น 7 วัน หรือจะทำถึง 14 วันก็ได้ จะทำให้มีกำลังอัดอยู่ที่ 70%
  • บ่ม 28 วัน เป็นระยะเวลาที่สมบูรณ์มากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะมีกำลังอัด 100% และเป็นช่วงนิยมนำไปทดสอบกำลังอัดอีกด้วย
  • บ่มสูงสุดถึง 180 วัน จะเป็นระยะเวลาที่บ่มนานมากที่สุด ช่วยทำให้คอนกรีตมีกำลังเพิ่มขึ้นถึง 125% เลยทีเดียว

 

วิธีในการบ่มคอนกรีต

สำหรับวิธีในการบ่มคอนกรีตนั้น จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมความชื้น ไม่ให้เกิดการระเหยของน้ำ โดยสามารถเลือกได้ว่าวิธีไหนเหมาะกับงานก่อสร้างของเรามากที่สุด เพราะแต่ละวิธีจะขึ้นอยู่กับลักษณะของหน้างาน และข้อจำกัดบางส่วนในพื้นที่ สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

 

1 – เพิ่มความชื้นให้กับคอนกรีตโดยตรง

บ่มคอนกรีต

เป็นวิธีที่ทำให้คอนกรีต ได้สัมผัสกับน้ำหรือความชื้นโดยตรง เพราะนอกจากคอนกรีตจะต้องระวังในเรื่องของการสูญเสียความชื้นแล้ว การเติมเต็มน้ำให้กับคอนกรีต จะส่งผลให้อาคารมีความแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย สามารถทำได้ตามวิธีดังต่อไปนี้

  • ฉีดน้ำให้ทั่ว เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดเลยก็ว่าได้ เพียงแค่คุณฉีดน้ำลงบนคอนกรีต ถือว่าทำได้ง่าย ไม่ต้องคอยดูแลตลอดเวลา แต่จะไม่เหมาะกับในพื้นที่ ที่มีน้ำให้ใช้น้อย เพราะทำให้เสียเวลากับการฉีดน้ำให้ทั่ว และต้องหมั่นฉีดน้ำบนกำแพงบ่อยมากกว่าพื้น
  • คลุมด้วยวัสดุที่ชื้น คุณสามารถใช้ตัวช่วยเสริม ที่ทำให้คอนกรีตมีความชื้นอยู่ตลอดเวลานั้นก็คือ กระสอบป่านหรือทราย โดยนำไปวางลงบนผิวคอนกรีตให้ทั่วทุกที่ หลังจากนั้นค่อยๆ เติมน้ำให้กับวัสดุเหล่านั้น เพื่อจะได้กักเก็บน้ำ ทำให้คอนกรีตมีความชื้นอยู่ตลอดเวลา สะดวกต่อการใช้งาน และวัสดุหาซื้อได้ง่าย แต่ถ้าอยู่ในพื้นที่ ที่มีอากาศร้อน จะต้องค่อยฉีดน้ำบนวัสดุด้วย
  • ขังน้ำให้คอนกรีต เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด เพราะนอกจากจะทำได้ง่าย และราคาถูก เพียงแค่คุณนำดินเหนียวมาผสมกับน้ำ หลังจากนั้นก็ปั้นให้เป็นกรอบตามมุมของคอนกรีต ที่สำคัญจะต้องไม่มีรอยรั่ว และนำน้ำมาใส่ให้เต็ม เพื่อให้คอนกรีตได้รับน้ำอย่างเต็มที่ แต่ต้องคอยดูรอยร้าว ที่จะเกิดขึ้นกับดินเหนียวอยู่ตลอด เมื่อถึงเวลาที่บ่มเสร็จก็ต้องเก็บทำความสะอาด

 

2 – ทำให้คอนกรีตไม่สูญเสียความชื้น

บ่มคอนกรีต

ในวิธีนี้จะไม่ได้เป็นการเติมความชื้นเหมือนกับวิธีแรก แต่เป็นการบ่มที่ปกปิดหรือเคลือบผิวของคอนกรีต ช่วยให้ไม่เกิดการเสียน้ำหรือความชื้น ได้ระเหยออกจากคอนกรีต โดยวิธีที่นิยมใช้กัน คือ

  • คลุมด้วยแผ่นพลาสติก สามารถเห็นได้จากการก่อสร้าง ที่มีพลาสติกพันเอาไว้กับเสา ซึ่งจะต้องคลุมให้สนิท ไม่ให้มีช่องหรือรูใดๆ โดยบ่มเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 วัน เพื่อให้คอนกรีตแข็งได้เร็วขึ้น ถือว่าเป็นวิธีที่นำไปใช้กับโครงสร้างได้ทุกรูปแบบ แต่ต้องคอยระวังไม่ให้พลาสติกที่คลุมอยู่นั้นเกิดความเสียหาย และถ้ายึดแผ่นพลาสติกไม่ดี ลมก็จะพัดหลุดออกไปได้ง่ายๆ
  • ใช้สารเคมีเคลือบผิว ในพื้นที่หน้างานบางแห่ง จะมีข้อจำกัดที่ยากต่อการคลุมด้วยพลาสติก จึงทำให้การใช้สารเคมีเคลือบผิว สามารถช่วยป้องกันไม่ให้ความชื้นระเหยออกไปได้เช่นกัน โดยนิยมนำไปใช้กับการงานก่อสร้างที่เร่งรีบ
    เช่น ถนน, พื้นโรงงาน และคลังเก็บสินค้า เป็นต้น แต่จะสามารถเคลือบสารได้ในตอนที่คอนกรีตชื้นเท่านั้น และต้องระวังไม่ให้โดนน้ำ ไม่อย่างนั้น น้ำจะชำระล้างสารเคมีที่เคลือบอยู่ให้หลุดออกไป

 

3 – บ่มด้วยไอน้ำเพื่อเร่งกำลังอัด

ในวิธีนี้เป็นการนำไอน้ำมาบ่ม ที่สร้างทั้งความชื้นกับความร้อน ให้สำหรับคอนกรีตที่เพิ่งจะหล่อเสร็จ เพราะนอกจากจะช่วยลดการหดตัว ยังเพิ่มประสิทธิภาพให้คอนกรีต มีความสามารถในการต้านสารเคมีที่เป็นอันตรายได้อีกด้วย ซึ่งวิธีในการบ่มด้วยไอน้ำ จะแบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ

  • ไอน้ำที่มีความดันต่ำ จะใช้อุณหภูมิอยู่ที่ 40 – 100 ํC เป็นการเพิ่มกำลังอัดอย่างรวดเร็ว ในขณะที่อุณหภูมิไม่ได้สูงมาก นิยมนำไปใช้กับการถอดแบบ และขนย้ายคอนกรีตเท่านั้น แต่ก่อนที่จะนำไปบ่มต้องปล่อยทิ้งเอาไว้ในอุณหภูมิปกติ ประมาณ 2 – 6 ชั่วโมงก่อน
  • ไอน้ำที่มีความดันสูง จะใช้อุณหภูมิมากกว่า 100 ํC สามารถใช้งานได้ภายใน 24 ชั่วโมง ที่มีกำลังอัดเทียบเท่ากับการบ่ม 28 วัน ส่วนมากจะนำไปใช้กับงานอุตสาหกรรม ที่เป็นคอนกรีตสำเร็จรูป แต่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง และถือว่านำไปใช้ได้กับงานบางประเภทเท่านั้น

 

สรุปแล้วความสำคัญของการบ่มคอนกรีตคืออะไร?

การบ่มคอนกรีต มีความสำคัญในด้านของความแข็งแรง เพราะการบ่มเป็นมาตรฐานที่ช่วยทำให้ “กำลังอัดคอนกรีต” มีความหนาแน่นมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้คอนกรีตมีคุณภาพตามมาตรฐาน แข็งแรงทนทาน และสามารถนำไปใช้งานได้ในระยะยาว ไม่ต้องกังวลว่าใช้งานไปสักพักแล้วคอนกรีตจะเปราะบาง หรือเกิดรอยร้าวบนคอนกรีต จนทำให้เสียเวลาในการแก้งาน

ซึ่งวิธีในการบ่มแต่ละประเภท มีความแตกต่างกันออกไป ทั้งเรื่องของวิธีการ, ค่าใช้จ่าย และข้อดี-ข้อเสีย คุณเองสามารถเลือกได้ว่า อยากจะใช้วิธีไหนในการบ่ม โดยที่เหมาะสมกับหน้างาน และยังคงอยู่ในงบประมาณที่มีอยู่

 

สนใจสั่งซื้อคอนกรีตได้ที่ MTcement !!

MTcement ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง วัสดุตกแต่ง ทั้งค้าส่ง และค้าปลีกเป็นเวลานานกว่า 40 ปี เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้ารายสำคัญของผู้ผลิตชั้นนำหลายแห่งมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่ดีกับผู้ผลิต

  • ส่งผลให้เรามีอำนาจในการต่อรองราคา และสามารถจำหน่ายสินค้าในราคา “กันเอง”
  • ลูกค้าท่านใดที่ต้องการใช้สินค้าเป็นจำนวนมาก ทางเราสามารถต่อรองกับบริษัทผู้ผลิตเพื่อนำเสนอ “ราคาพิเศษ”

อีกทั้งยังมีทีมจัดสรรรถขนส่งเกือบทุกประเภท จากทั่วพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล เพื่อบริการคุณอย่างทั่วถึง เพราะเราใส่ใจเรื่องความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้า โดยถึงที่หมายอย่างปลอดภัย

 

ติดต่อสอบถามข้อมูล และข้อสงสัยต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ เพิ่มเติมได้ที่นี่

Facebook: คอนกรีตผสมเสร็จ โดย เมืองไทยซีเมนต์

E-mail: info@mtcement.com

Line: @mtcement

Tel: 088 – 554 – 1555, 02 – 328 – 0684