ปูนซีเมนต์ถือว่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญต่อสิ่งปลูกสร้าง สามารถทำเป็นพื้น เสา และคานได้ เพราะมีคุณสมบัติหลักที่มีความแข็งแรง เพื่อป้องกันไม่ให้โครงสร้างถล่มลงมาสร้างความเสียหาย จนเป็นอันตรายกับผู้อยู่อาศัย จึงทำให้ปูนมีหลายชนิด โดยแต่ละชนิดก็จะขึ้นอยู่กับประเภทของงาน สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่า “ปูนมีกี่ประเภท ?” และแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร
วันนี้ MTcement จะพาคุณมารู้จักกับประเภทของปูนว่าเหมาะกับงานแบบใด เพื่อที่จะได้ใช้ปูนให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของงาน ทำให้สิ่งก่อสร้างมีความแข็งแรง และสามารถใช้งานได้ในระยะยาว
ปูนมีกี่ประเภท
หลายคนคงรู้อยู่แล้วว่า ‘ปูนซีเมนต์’ เป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลย เพราะแทบจะอยู่ในทุกขั้นตอนของงานก่อสร้าง จนอาจเข้าใจได้ว่าแค่มีปูนก็สามารถสร้างอาคารต่างๆ ออกมาได้ตามที่ต้องการ แต่งานปูนเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความแข็งแรง จึงทำให้ปูนถูกแบ่งประเภทที่จะนำไปใช้งาน โดยมีทั้งหมด 3 ประเภทหลัก คือ
ปูนซีเมนต์งานโครงสร้าง
ปูนซีเมนต์งานโครงสร้าง หรือ ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ เป็นปูนที่เอาไว้ใช้สำหรับงานโครงสร้าง เช่น พื้น, คาน และเสา เป็นต้น ที่มีคุณสมบัติหลักในเรื่องของความแข็งแรง มั่นคง รองรับน้ำหนักได้ดี แต่ปูนงานโครงสร้างจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 ชนิด จึงทำให้มีคุณสมบัติบางจุดที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้โครงสร้างของอาคารที่ถูกนำไปใช้มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด
- ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ธรรมดา เป็นปูนที่มักจะใช้กับงานก่อสร้างทั่วไป เช่น พื้น, เสา, คาน และถนน โดยที่สามารถนำไปใช้คู่กับโครงเหล็ก จนกลายเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก เพื่อให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
- ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ดัดแปลง จะนำไปใช้กับโครงสร้างขนาดใหญ่อย่าง ฐานราก, ตอม่อ และสะพาน เป็นต้น ที่อาจจะมีโอกาสสัมผัสกับความด่าง(เกลือ) ไม่ว่าจากน้ำหรือดิน เพราะปูนสามารถทนกับเกลือซัลเฟตได้ในระดับหนึ่ง
- ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ให้กำลังอัดสูง ถือว่าเป็นปูนที่มีความสามารถแห้งเร็ว มักจะนำไปหล่อเป็นพื้นสำเร็จรูป, เสาเข็ม และเสาไฟฟ้า แต่ไม่เหมาะกับคอนกรีตขนาดใหญ่ เพราะอาจจะเกิดรอยร้าวหรือแตกได้
- ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ความร้อนต่ำ เป็นปูนที่เหมาะกับการก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำ เพราะปูนมีความสามารถที่เกิดความร้อนต่ำ จากปฏิกิริยาระหว่างปูนกับน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้คอนกรีตแตกร้าวจากความร้อน
- ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ต้านทานซัลเฟต มักจะนำไปใช้กับโครงสร้างที่สัมผัสกับน้ำทะเลหรือดินเค็ม เช่น ท่าเรือ, สะพาน และอาคารที่อยู่ใกล้ริมทะเล เพราะปูนสามารถต้านทานซัลเฟตได้ดีที่สุด
ขึ้นชื่อว่าปูนซีเมนต์งานโครงสร้าง จะเป็นปูนที่ถูกผลิตตามเกณฑ์ของมาตรฐานอุตสาหกรรม ที่จะทำให้โครงสร้างมีความแข็งแรง ทนทาน และใช้งานอาคารได้ในระยะยาว แต่ต้องสังเกตให้ดีว่าปูนซีเมนต์ที่คุณนำมาใช้ เหมาะสมกับประเภทของการใช้งานหรือไม่ เพราะถ้าหากคุณนำปูนไปใช้กับงานที่ผิดประเภท นอกจากจะทำให้อายุของอาคารสั้นลง ยังไม่ปลอดภัยกับผู้อยู่ภายใต้อาคารนั้นๆ อีกด้วย
ปูนซีเมนต์งานก่อและงานฉาบ
ปูนซีเมนต์ที่ใช้กับงานก่อและงานฉาบ จะมีแรงอัดหรือกำลังที่น้อยกว่าปูนงานโครงสร้าง เพราะต้องการคุณสมบัติในการยึดเกาะที่ดี เป็นตัวช่วยที่ทำให้คุณสามารถก่ออิฐได้สะดวก และฉาบผนังให้ออกมาเรียบเนียนสวยงาม ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของปูนงานตกแต่ง โดยมีชนิดของปูนดังนี้
- ปูนซีเมนต์ผสม จะสามารถนำไปใช้กับงานก่ออิฐ ฉาบผนัง เทปูนเอาไว้ใช้กับงานคอนกรีตขนาดเล็กได้ เพราะมีส่วนประกอบหลักอย่าง ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ธรรมดาที่เติมทราย หินปูน และอื่นๆ ลงไปเพิ่ม เพื่อให้ปูนมีคุณสมบัติเหนียวมากขึ้น เวลาที่นำไปใช้งานจะทำให้ยึดเกาะได้ดี โดยมีระยะเวลาในการแห้งตัวที่เหมาะสม ไม่ทำให้เกิดการหดตัวเร็ว จนสร้างรอยแตกร้าวให้กับผนัง
- ปูนซีเมนต์สำเร็จรูป หรือปูนมอร์ต้า มีลักษณะในการนำไปใช้งานที่คล้ายกับปูนซีเมนต์ผสม ไม่ว่าจะเป็นการก่อหรือฉาบ แต่ไม่มีส่วนผสมของหินปูน มีเพียงแค่ปูนซีเมนต์ ทราย และน้ำยาผสมคอนกรีต จึงทำให้ง่ายต่อการนำไปใช้ เพียงแค่เติมน้ำลงไปผสมก็สามารถใช้งานได้เลย
- ปูนซีเมนต์ Masonry เป็นปูนที่มีคุณสมบัติเอาไว้ใช้สำหรับงานฉาบผนังเท่านั้น เพราะนอกจากจะมีปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ธรรมดากับหินบดละเอียด ยังมีการใส่สารเคมีที่ช่วยให้ปูนมีความสามารถในการอุ้มน้ำ หมดกังวลกับรอยแตกลายงาหรือผนังลอกหลังจากที่ปูนแห้ง แถมเวลาฉาบไม่ต้องใช้แรงเยอะ ก็สามารถทำให้ผนังมีความเรียบเนียนมากเป็นพิเศษ
ปูนงานก่อและงานฉาบ จะมีหน้าที่เป็นตัวประสานหรือยึดเกาะได้อย่างดีเยี่ยม เพราะมีส่วนผสมที่ทำให้ปูนมีความเหนียวมากยิ่งขึ้น แต่มีกำลังอัดที่ต่ำกว่าปูนงานโครงสร้าง จึงไม่เหมาะที่จะนำไปก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ เนื่องจากปูนมีกำลังน้อยจึงมีโอกาส ที่ทำให้โครงสร้างของอาคารไม่สามารถรองรับน้ำหนักได้ จนเกิดเหตุการณ์รุนแรงอย่างอาคารถล่ม
ปูนซีเมนต์งานพิเศษ
ปูนซีเมนต์งานพิเศษจะถูกพัฒนาจาก’ปูนซีเมนต์’ ทั่วไป ที่อาจจะยังไม่ครอบคลุมหรือตอบโจทย์กับการใช้งานมากนัก จึงทำให้มีความสามารถในการนำไปใช้ที่ค่อนข้างเฉพาะ ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
- ปูนซีเมนต์ขุดเจาะน้ำมัน เป็นปูนที่มีการควบคุมคุณภาพของการผลิต ที่ได้รับมาตรฐานจากอเมริกันปิโตรเลียม เพราะปูนจะต้องต้านทานซัลเฟตได้สูง และสามารถใช้ในบริเวณที่มีโอกาสเกิดแรงดันหรืออุณหภูมิสูง จากความลึกของระดับน้ำทะเล และปูนยังมีคุณสมบัติที่แข็งตัวได้อย่างรวดเร็ว
- ปูนซีเมนต์ขาว มีคุณสมบัติที่นำไปใช้ได้กับงานโครงสร้าง, งานก่อ และงานฉาบเหมือนกับปูนทั่วไปที่มีสีเทา เพราะมีอยู่ 2 แบบคือ ขาวปอร์ตแลนด์กับขาวผสม แต่แตกต่างกันตรงสารประกอบบางชนิด จึงทำให้กระบวนการผลิตที่มีขั้นตอนมากกว่า และให้ความสวยงามจากสีขาว
สำหรับปูนซีเมนต์งานพิเศษ เป็นปูนที่ถูกผลิตขึ้นมาแทนปูนซีเมนต์ทั่วไป ที่มีคุณสมบัติให้นำไปใช้ได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพหรือความสวยงามที่ปูนทั่วไปไม่สามารถทำได้ แต่ปูนงานพิเศษยังไม่ได้เป็นที่นิยมสักเท่าไหร่ จึงส่งผลให้ราคาของปูนประเภทนี้สูง
ทำไมปูนซีเมนต์ถึงต้องมีหลายประเภท
ปูนซีเมนต์จะต้องถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภท เพราะเวลาที่นำปูนไปใช้จะได้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของงาน เพื่อให้โครงสร้างมีความแข็งแรงจากการใช้ปูนซีเมนต์งานโครงสร้าง และใช้ปูนซีเมนต์งานผนังจะได้ผนังที่เรียบเนียนสามารถตกแต่งให้สวยงามได้ตามความต้องการ
แต่ถ้าหากคุณไม่รู้ว่าปูนแต่ละประเภทเหมาะกับงานแบบไหน นอกจากจะทำให้อาคารมีอายุการใช้งานที่สั้นลงแล้ว ยังทำให้เสียเวลาและเสียเงินจากการก่อสร้างไปโดยสูญเปล่า แนะนำให้สอบถามกับบริษัทที่จำหน่ายอย่าง MTcement ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างมาอย่างยาวนาน ที่พร้อมจะให้บริการกับคุณ
ปูนซีเมนต์คุณภาพเยี่ยม ต้องที่ MTcement !!
MTcement ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง วัสดุตกแต่ง ทั้งค้าส่ง และค้าปลีกเป็นเวลานานกว่า 40 ปี เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้ารายสำคัญของผู้ผลิตชั้นนำหลายแห่งมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่ดีกับผู้ผลิต
- เรามีอำนาจในการต่อรองราคา และสามารถจำหน่ายสินค้าในราคา “กันเอง”
- ถ้าหากลูกค้าท่านใดต้องการใช้สินค้าเป็นจำนวนมาก ทางเราสามารถต่อรองกับบริษัทผู้ผลิตเพื่อนำเสนอ “ราคาพิเศษ”
อีกทั้งยังมีทีมจัดสรรรถขนส่งเกือบทุกประเภทจากทั่วพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล เพราะเราใส่ใจเรื่องความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้า รวมไปถึงการให้บริการรถคอนกรีตผสมเสร็จ ขนาดใหญ่ที่จุได้ถึง 5 – 6 คิว เหมาะกับโครงสร้างขนาดใหญ่ที่ต้องการคอนกรีตปริมาณมาก และสำหรับใครที่มีการก่อสร้างในบริเวณที่ต้องจำกัดไม่ให้รถที่มีขนาดใหญ่เข้าไปในพื้นที่ ทางเรามีรถขนาดเล็กที่จุคอนกรีต 2 คิว เป็นอีกทางเลือกที่ให้บริการอย่างทั่วถึง
ติดต่อสอบถามข้อมูล และข้อสงสัยต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ เพิ่มเติมได้ที่นี่
Facebook: คอนกรีตผสมเสร็จ โดย เมืองไทยซีเมนต์
E-mail: info@mtcement.com
Line: @mtcement