คอนกรีตผสมเสร็จ CPAC มีอยู่หลายประเภท ซึ่งผู้ซื้อต้องเลือกซื้อคอนกรีต ตามการใช้งานที่แท้จริง ซึ่งเรามีความรู้เรื่องคอนกรีตผสมเสร็จของ CPAC มานำเสนอ ดังนี้
-
คอนกรีตสีซีแพค
ข้อมูลทั่วไป
คือ คอนกรีตที่ถูกออกแบบมา สำหรับงานตกแต่งเพื่อเพิ่มความสวยงาม โดยการผสมสีลงไปในคอนกรีต เพื่อให้ได้เฉดสีตามที่ต้องการ มักนิยมใช้เป็นคนกรีตเททับหน้า หรืองานตกแต่งอื่นๆ เช่น ทางเท้า ลานบริเวณหน้าศูนย์การค้า หรือ ทางเข้าสำนักงานและคอนโดนิเนียมต่างๆ
คุณสมบัติ
- มีหลายเฉดสีให้เลือกใช้งาน
- มีกำลังอัดให้เลือกใช้ 240-400 กก./ตร.ซม. (ทรงลูกบาศก์)
เหมาะสำหรับโครงสร้างใด
เหมาะสำหรับงานตกแต่ง เพื่อเพิ่มความสวยงาม เช่น ทางเท้า ลานบริเวณหน้าศูนย์การค้า หรือ ทางเข้าสำนักงานและคอนโดนิเนียมต่างๆ
คำแนะนำในการใช้งาน และข้อควรระวัง
สำหรับคอนกรีตสีซีแพคนี้ ควรระวังเรื่องการบ่มให้ความชื้น ควรหลีกเลี่ยงการบ่มด้วยน้ำ เนื่องจากจะทำให้เกิดเป็นคราบที่ผิวคอนกรีต และแนะนำให้ บ่มด้วยการใช้แผ่นพลานสติก หรือ ผ้าใบปิดคลุม เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน
-
คอนกรีตพรุนซีแพค
ข้อมูลทั่วไป
คือ คอนกรีตที่ถูกออกแบบมา ให้มีให้มีปริมาณช่องว่างในเนื้อคอนกรีตที่เหมาะสม สามารถระบายน้ำได้ดี โดยคอนกรีตพรุนซีแพคมีช่องว่างภายในที่ต่อเนื่อง (Interconnection Void) ขนาดตั้งแต่ 2 – 8 มม. ซึ่งขนาดช่องว่างเหล่านี้จะทำหน้าที่ให้น้ำไหลผ่านได้สะดวก
คุณสมบัติ
- คอนกรีตพรุนซีแพค มีกำลังอัดให้ใช้งานอยู่ที่ ประมาณ 180 กก./ตร.ซม. (ทรงลูกบาศก์) หรือ 140 กก./ตร.ซม. (ทรงกระบอก)
- เนื่องจากคอนกรีตพรุนซีแพคไม่มีทรายอยู่ในส่วนผสม จึงทำให้เป็นคอนกรีตที่มีปริมาณช่องว่างอากาศที่ต่อเนื่องกัน มากกว่าคอนกรีตปกติ ทำให้น้ำไหลผ่านได้สะดวก
ประเภทของการใช้งาน
เหมาะสำหรับการก่อสร้างหลายๆ ประเภท โดยเฉพาะพื้นที่ต้องการการระบายน้ำได้ดี เช่น พื้นลานจอดรถ, ลานบริเวณรอบที่พักอาศัย, พื้นบริเวณรอบสระว่ายน้ำ, ถนนในหมู่บ้าน (Light Traffic) และถนนภายในสนามกอล์ฟ เป็นต้น
คำแนะนำในการใช้งาน และข้อควรระวัง
วิธีการก่อสร้างด้วยคอนกรีตพรุนซีแพค (Construction Method for CPAC Porous Concrete)
นอกจากต้องมีการออกแบบที่ดีแล้ว ปัจจัยที่สำคัญที่ช่วยให้การใช้คอนกรีตพรุนซีแพคมีประสิทธิภาพสูงสุด คือ วิธีการทำงานที่ถูกต้อง
- การเตรียมดิน(Subgrade) ก่อนที่จะเริ่มเทคอนกรีต ชั้นดินเดิมต้องถูกอัดแน่น (90-96% Standard Proctor) เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการทรุดตัว และความเสียหายของชั้นคอนกรีตพรุน
- การเตรียมชั้นรองผิวทาง (Subbase) ควรปูหินปูนหรือกรวดที่มีความสะอาดขนาด 1″-3/4″ บดอัดให้มีความหนาอยู่ระหว่าง 6″-12″ (150-300 มม.) ขึ้นกับลักษณะของดินเดิม เพื่อช่วยในการระบายน้ำให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
- การเทคอนกรีต (Pouring) การเทคอนกรีตจากรางควรให้มีระยะตก (Free Fall) ไม่เกิน 90 ซม. ทั้งนี้เพื่อป้องกันการอัดแน่นกันของคอนกรีตที่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งจะส่งผลต่อความสามารถในการระบายน้ำ (Permeability Efficiency) เมื่อคอนกรีตถูกเทออกมาจากรถโม่แล้ว จะต้องทำการบดอัดโดยการใช้ลูกกลิ้งตามมาตรฐาน ACI 522 R ซึ่งจะทำให้คอนกรีตมีขนาดช่องว่างที่เหมาะสมและสามารถระบายน้ำได้ดี
- การบ่ม (Curing) หลังจากขั้นตอนการเทเรียบร้อย ควรคลุมด้วยฟิล์มพลาสติกคลุมทันทีและบ่มชื้นต่อเนื่องอย่างน้อย 7-14 วัน เพราะคอนกรีตพรุนเป็นคอนกรีตแบบแห้ง (Dry Mix) มีน้ำในส่วนผสมอยู่น้อย มีโอกาสเกิดการระเหยของน้ำได้มากกว่า ดังนั้นจะต้องมีการบ่มให้คอนกรีตสามารถเกิดปฏิกิริยาไฮเดรชั่นได้สมบูรณ์ที่สุด หากไม่มีการบ่มที่ดีเพียงพออาจมีผลต่อด้านกำลัง(Strength) และการหลุดร่อนของผิวหน้าคอนกรีต
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในงานคอนกรีตพรุนซีแพค (Porous Concrete Considerations)
นอกจากตัวคอนกรีตพรุนซีแพคเองแล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเพิ่มเติมคือ ระบบการระบายน้ำของชั้นผิวทางและชั้นดินของพื้นที่นั้นๆ ทั้งนี้เพื่อให้ได้คอนกรีตพรุนซีแพคที่มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามการออกแบบนั่นเอง
- ความสามารถในการซึมผ่านของน้ำที่ชั้นดินเดิม ควรมีการตรวจสอบค่าการซึมผ่าน ซึ่งชนิดของดินที่แนะนำควรเป็นดินที่ระบายน้ำได้ดีและถ้าหากชั้นดินเดิมเป็นดินเหนียว ควรเพิ่มความหนาของชั้นหินรองพื้นทาง (Subbase; หิน ¾ – 1 นิ้ว) ให้มีความหนามากขึ้น
- ในสถานที่ก่อสร้าง การเดินรถและอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมากๆ ควรอยู่ภายนอกบริเวณพื้นที่ก่อสร้างคอนกรีตพรุนซีแพค ควรหลีกเลี่ยงการจราจรผ่านบริเวณที่กำลังทำการก่อสร้าง เพื่อป้องกันคอนกรีตพรุนเกิดการอัดแน่น ทำให้สูญเสียความสามารถในการระบายน้ำ
-
คอนกรีตไหลลื่นเทง่ายซีแพคซุปเปอร์พลัส
ข้อมูลทั่วไป
คือ คอนกรีตที่ถูกออกแบบมาให้มีความไหลลื่นสูง คอนกรีตสามารถไหลเข้าแบบได้ง่ายขึ้น จึงทำให้เทคอนกรีตได้ง่ายขึ้น เทสะดวกขึ้น งานเสร็จเร็วขึ้น สามารถลดจำนวนคนงานได้ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเติมน้ำระหว่างการเทคอนกรีต ทำให้ลดโอกาสในการเกิดปัญหาการแตกร้าว เป็นฝุ่น เป็นโพรง กำลังอัดตก เนื่องจากการเติมน้ำ นอกจากนี้ยังสามารถถอดแบบได้เร็วขึ้น และได้ผลงานมีความสวยงามเรียบร้อย มีผิวที่เรียบเนียน
คุณสมบัติ
- มีความไหลลื่นสูง ทำงานง่าย
- ถอดแบบได้เร็วขึ้น ผิวเรียบเนียน สวยงาม
- มีกำลังอัดรูปทรงลูกบาศก์ (Cube) มาตรฐานให้เลือกใช้ได้ตั้งแต่ 240-400 กก./ตร.ซม.
เหมาะสำหรับโครงสร้างใด
เหมาะสำหรับทุกโครงสร้าง เช่น ฐานราก เสา คาน พื้น
คำแนะนำในการใช้งาน และข้อควรระวัง
ไม่ควรเติมน้ำเพื่อให้คอนกรีตมีความเหลวมากขึ้น เพราะจะทำให้คุณสมบัติคอนกรีต ไม่ได้ตามที่ออกแบบไว้
-
คอนกรีตงานใต้น้ำซีแพค
ข้อมูลทั่วไป
คือ คอนกรีตที่ถูกออกแบบมา ให้มีคุณสมบัติ ไหลเข้าแบบง่าย มีความไหลลื่นสูง สามารถเทคอนกรีตลงแบบที่อยู่ใต้น้ำได้โดยไม่ต้องสูบน้ำออก และไม่ต้องจี้เขย่า โดยคอนกรีตงานใต้น้ำซีแพค มีเนื้อคอนกรีตที่ยึดเกาะตัวกันสูง และมีค่าความหนืดสูง สามารถป้องกันการชะล้างจากน้ำ และการแยกตัวของเนื้อคอนกรีตได้
คุณสมบัติ
- ไหลเข้าแบบง่าย มีความไหลลื่นสูง สามารถเทคอนกรีตลงแบบที่อยู่ใต้น้ำได้โดยไม่ต้องสูบน้ำออก และไม่ต้องจี้เขย่า
- เนื้อคอนกรีตที่ยึดเกาะตัวกันสูง และมีค่าความหนืดสูง สามารถป้องกันการชะล้างจากน้ำ และการแยกตัวของเนื้อคอนกรีตได้
- มีระยะเวลาในการทำงาน นานกว่าคอนกรีตปกติ
- มีกำลังอัดให้เลือกใช้ 380-450 กก./ตร.ซม. (ทรงลูกบาศก์)
เหมาะสำหรับโครงสร้างใด
เหมาะสำหรับงานโครงสร้างที่ตัวแบบอยู่ใต้น้ำ ไม่สามารถสูบน้ำออกจากแบบได้ รวมทั้งไม่สามารถจี้เขย่าได้ เช่น งานซ่อม/สร้าง โครงสร้างเสาหรือต่อหม้อสะพานข้ามคลองหรือแม่น้ำ
คำแนะนำในการใช้งาน และข้อควรระวัง
- การลำเลียงคอนกรีตลงแบบ ผ่านท่อTremie หรือปั้ม ควรลำเลียงคอนกรีตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คอนกรีตเข้าไปแทนที่น้ำ และดันน้ำออกมา เพื่อเป็นการลดโอกาสการชะล้างของเนื้อคอนกรีตให้น้อยที่สุด
- หากใช้ปั้มในการเทคอนกรีต แบบหล่อของโครงสร้างต้องมีความมั่นคงแข็งแรง มีการยึดแบบอย่างหนาแน่น สามารถต้านทานแรงดันคอนกรีตจากปั้ม และแรงดันจากน้ำโดยรอบได้
- เหล็กเสริมที่ใช้ในงานเทใต้น้ำ ควรออกแบบให้เหล็กเสริมมีระยะห่างมาเพียงพอ โดยมีระยะห่างไม่น้อยกว่า 6 ซม. เพื่อให้การเทคอนกรีตสามารถทำได้ง่าย และไม่เกิดการขัดตัวกันของหินในเนื้อคอนกรีต ลดโอกาสการเกิดโพรงและช่องว่างในโครงสร้าง
-
คอนกรีตลานตากพืชผลซีแพค
ข้อมูลทั่วไป
คือ คอนกรีตที่ถูกออกแบบมาให้สามารถดูดซับและสะสม ความร้อนได้สูงกว่าคอนกรีตปกติ ทำให้สามารถลดระยะเวลาในการตากพืชผลทางการเกษตรให้น้อยลง เพิ่มจำนวนรอบในการตากพืชผลทางการเกษตรได้มากขึ้น
คุณสมบัติ
- สามารถดูดซับและสะสมความร้อนได้สูงกว่าคอนกรีตปกติ
- มีกำลังอัดให้เลือกใช้ 240-350 กก./ตร.ซม. (ทรงลูกบาศก์)
เหมาะสำหรับโครงสร้างใด
เหมาะสำหรับลานตากพืชผลทางการเกษตร เช่น ลานตากข้าว ลานตากมันสำปะหลัง ลานตากข้าวโพด
คำแนะนำในการใช้งาน และข้อควรระวัง
ควรทำรอยต่อสำหรับการขยายตัวของพื้นคอนกรีต ให้มากกว่าคอนกรีตปกติ 1.5 เท่า
-
คอนกรีตไหลเข้าแบบง่ายซีแพค
ข้อมูลทั่วไป
คือ คอนกรีตที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้มีความไหลลื่นสูง ไม่แยกตัว สามารถไหลผ่านเหล็กเสริมที่ซับซ้อน สามารถไหลเข้าไปเติมเต็มทุกมุมของแบบหล่อได้ด้วยน้ำหนักของตัวคอนกรีตเอง โดยไม่ต้องมีการจี้เขย่า เป็นคอนกรีตที่มีความทึบน้ำสูง มีความคงทนทำให้โครงสร้างมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
คุณสมบัติ
- มีเนื้อคอนกรีตที่ไหลลื่นสูง ไม่แยกตัว
- มีความทึบน้ำ และมีความคงทนสูง
- มีกำลังอัดให้เลือกใช้ 400-600 กก./ตร.ซม. (ทรงลูกบาศก์)
เหมาะสำหรับโครงสร้างใด
- เหมาะสำหรับโครงสร้างที่มีเหล็กเสริมซับซ้อนและหนาแน่น มีรูปแบบที่ยากต่อการจี้เขย่า
- งานซ่อมแซมโครงสร้างที่ต้องการคอนกรีตที่มีการไหลตัวสูง
- โครงสร้างที่ต้องการผิวหน้าคอนกรีตเรียบ
- โครงสร้างที่ไม่สามารถเทได้ภายในครั้งเดียว หรือต้องใช้เทคนิคการเทพิเศษอื่นๆ เช่น เสาสูง หรือกำแพงสูง ทำให้ไม่ต้องเจาะแบบข้าง หรือแบ่งเท และสามารถลดรอยต่อในโครงสร้างได้
คำแนะนำในการใช้งาน และข้อควรระวัง
- ไม้แบบ ต้องมีความแข็งแรงและคงทน เพราะแรงดันของคอนกรีต จะสูงกว่าคอนกรีตปกติ โดยเฉพาะการเท เสาสูง หรือ กำแพงสูง
ควรทำการบ่มคอนกรีต ด้วยการให้ความชื้นกับคอนกรีตอย่างต่อเนื่อ ไม่น้อยกว่า 7 วัน เพื่อให้คอนกรีตพัฒนากำลังอัดได้อย่างสมบูรณ์
-
มอร์ต้าสำหรับงานเคลือบท่อปั้มซีแพค
ข้อมูลทั่วไป
คือ มอร์ต้า หรือปูนทราย ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในงานเคลือบท่อปั้ม เพื่อลดการสูญเสียน้ำปูนของคอนกรีตจากการลำเลียงผ่านท่อปั้ม ทำให้คอนกรีตที่ลำเลียงผ่านท่อปั้ม ยังคงคุณสมบัติ และความไหลลื่น เป็นไปตามที่ออกแบบไว้
คุณสมบัติ
มีส่วนผสมของมอร์ต้า หรือปูนทราย ที่เหมาะสมสำหรับการเคลือบท่อปั้ม
เหมาะสำหรับโครงสร้างใด
เหมาะสำหรับงานเคลือบท่อปั้มคอนกรีตทุกประเภท
คำแนะนำในการใช้งาน และข้อควรระวัง
เหมาะสำหรับงานเคลือบท่อปั้มคอนกรีตทุกประเภทเท่านั้น ไม่ควรนำไปใช้สำหรับงานเทพื้นปรับระดับ เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาเป็นฝุ่น และแตกร้าวตามมา
-
คอนกรีตผิวเรียบซีแพค
ข้อมูลทั่วไป
คือ คอนกรีตที่ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับงานคอนกรีตที่โชว์ผิวเปลือย ที่ต้องการความเรียบเนียน ผิวไม่เป็นช่องว่างหรือรูโพรง มีสีสม่ำเสมอสวยงาม ไม่เกิดการแตกร้าวและมีความคงทนต่อสภาพอากาศ
คุณสมบัติ
- ผิวเรียบเนียนสวย ไม่เป็นรูโพรงรังผึ้ง (Honeycomb) ผิวคอนกรีตไม่เป็นฟองอากาศขนาดใหญ่ ไม่มีริ้วรอยทราย คงทนต่อสภาพอากาศ
- มีกำลังอัดให้เลือกใช้ 240-400 กก./ตร.ซม. (ทรงลูกบาศก์)
เหมาะสำหรับโครงสร้างใด
เหมาะสำหรับงานคอนกรีตที่โชว์ผิวเปลือย เช่น เสาตอม่อสะพาน เสาในอาคารสมัยใหม่ที่ต้องการโชว์ผิวเปลือย
คำแนะนำในการใช้งาน และข้อควรระวัง
แบบหล่อ (Formwork)
- แบบหล่อคอนกรีตต้องเรียบ และควรทาน้ำมันทาแบบเพื่อไม่ให้คอนกรีตติดแบบ เวลาถอดแบบ
- แบบหล่อที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว ควรทำความสะอาดผิวแบบเพื่อขจัดคราบคอนกรีตที่ติดอยู่ออกให้หมด
ค่ายุบตัว (Slump)
- ค่ายุบตัวที่เหมาะสมกับการทำงาน ควรเลือกใช้ประมาณ 12.5 ซม. เป็นอย่างน้อย
การจี้เขย่า
- ควรเทคอนกรีตเป็นชั้นๆ ชั้นละ 30-40 ซม. แล้วทำการจี้เขย่าคอนกรีตในแต่ละชั้นอย่างทั่วถึง
การเทคอนกรีต
- สำหรับเสาที่มีความสูงเกิน 2เมตร ควรมีช่องเปิดด้านข้างสำหรับเทคอนกรีต เพื่อป้องกันเนื้อคอนกรีตแยกตัว
คอนกรีตควรมีระยะตกอิสระไม่เกิน 1.5เมตร หากมีระยะตกอิสระมากกว่า 1.5เมตร ควรมีท่อช่วยเทเพื่อไม่ให้เนื้อคอนกรีตแยกตัว
-
คอนกรีตแข็งตัวเร็วซีแพค
ข้อมูลทั่วไป
คือ คอนกรีตที่ถูกออกแบบโดยส่วนผสมพิเศษ เพื่อให้มีความสามารถในการรับน้ำหนัก (กำลังอัด) สูง ในเวลาที่รวดเร็วกว่าคอนกรีตปกติ ทำให้สามารถถอดแบบได้เร็วขึ้น เปิดใช้งานได้เร็วขึ้น ตามความเร่งด่วนของการก่อสร้าง
คุณสมบัติ
- ให้กำลังอัดได้อย่างรวดเร็วกว่าคอนกรีตปกติ โดยสามารถเลือกระยะเวลาการเวลาการเปิดใช้งาน และกำลังอัดที่ต้องการ ตามความเร่งด่วนของการก่อสร้าง
- ผิวหน้าคอนกรีต มีความแกร่งและทนทานต่อการกัดสี กว่าคอนกรีตทั่วไป
- ลดปัญหาการแตกร้าวของคอนกรีต ในช่วงอายุเริ่มต้น(คอนกรีตกำลังเริ่มก่อตัว)
เหมาะสำหรับโครงสร้างใด
งานพื้น ถนน ลาน หรือ ฐานรองแท่นเครื่องจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานซ่อมถนน ที่ต้องการเปิดใช้งานเร็ว
คำแนะนำในการใช้งาน และข้อควรระวัง
ควรเตรียม คนงาน เครื่องมือ และแบบหล่อที่หน้างานให้พร้อม เพื่อให้สามารถทำงานได้ทันที เมื่อคอนกรีตมาถึงหน้างาน เนื่องจากคอนกรีตแข็งตัวเร็วซีแพค มีระยะเวลาในการทำงาน เพียง45-60นาที ซึ่งสั้นกว่าคอนกรีตทั่วไป
-
คอนกรีตสลิปฟอร์มซีแพค
ข้อมูลทั่วไป
คือ คอนกรีตที่ถูกออกแบบมาให้มีระยะเวลาการก่อตัวของคอนกรีตที่เร็วกว่าคอนกรีตปกติ เพื่อให้คอนกรีตสามารถประคองตัวเองอยู่ได้ หลังจากที่แบบหล่อมีการเคลื่อนที่ต่อเนื่องไป โดยมักใช้งานกับโครงสร้างที่มีการเทอย่างต่อเนื่อง เช่น ปล่องลิฟท์ ไซโลเก็บพืชผลทางการเกษตร นอกจากจะเทโครงสร้างได้อย่างต่อเนื่องแล้ว ยังให้ผิวโครงสร้างที่เรียบเนียน สวยงาม
คุณสมบัติ
- มีระยะเวลาการก่อตัวของคอนกรีต สอดคล้องกับอัตราการขับเคลื่อนของแบบหล่อ
- ผิวเรียบ สวยงาม
- มีค่ายุบตัว ระยะเวลาการก่อตัว และกำลังอัดให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสม
- มีกำลังอัดรูปทรงลูกบาศก์ (Cube) มาตรฐานให้เลือกใช้ได้ตั้งแต่ 240-500 กก./ตร.ซม.
เหมาะสำหรับโครงสร้างใด
โครงสร้างที่ต้องเทอย่างต่อเนื่อง เช่น ปล่องลิฟท์ อุโมงค์ ไซโล การก่อสร้างสะพานช่วงยาว
คำแนะนำในการใช้งาน และข้อควรระวัง
- ควรเทคอนกรีตให้เป็นชั้นๆ สม่ำเสมอตลอดทั้งหน้าตัด โดยมีความหนาของการเท 30-40 ซม./ชั้น เพื่อให้การจี้เขย่าคอนกรีตสามารถทำได้อย่างทั่วถึง
- ควรใช้อัตราความเร็วในการเทคอนกรีต ให้สอดคล้องกับการลำเลียงคอนกรีตและการขับเคลื่อนของแบบหล่อ
- การจี้เขย่า ต้องมีการควบคุมระยะห่าง ความลึก และเวลาการจี้เขย่า ให้สม่ำเสมอกัน เพราะแรงเสียดทานระหว่างแบบหล่อและเนื้อคอนกรีต จะมีผลต่อความสวยงามของผิวโครงสร้าง
- กรณีที่มีเหตุให้ต้องหยุดเท ยืดระยะเวลาในการเท หรือต้องการเทให้เร็วขึ้น ควรมีการประสานงานกับโรงงานอย่างใกล้ชิด เพื่อที่ทางโรงงานจะได้ปรับส่วนผสมคอนกรีตให้มีระยะเวลาการก่อตัวของคอนกรีต เหมาะกับระยะเวลาในการทำงานของหน้างาน
- ผิวของแบบหล่อต้องสะอาด ปราศจากเศษคอนกรีต หรือสิ่งสกปรกอื่นๆ เพราะจะมีผลต่อความเรียบเนียน สวยงาม ของผิวโครงสร้าง
-
คอนกรีตพื้นอุตสาหกรรมซีแพค
ข้อมูลทั่วไป
คือ คอนกรีตที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับงานพื้นที่ต้องรับแรงกระแทก และการขัดสีมากกว่าปกติ เช่น พื้นโรงงาน พื้นโกดัง หรือพื้นที่มีการใช้งานรถหนัก รถที่มีล้อขัดสีกับพื้นสูง เช่นรถโฟล์คลิฟท์ ใช้งานเป็นประจำ เนื่องจากคอนกรีตพื้นอุตสาหกรรมซีแพค มีคุณสมบัติทนต่อการขัดสีที่ผิวคอนกรีตได้ดีเยี่ยม และมีความแข็งแรงทดทานสูง จึงทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และลดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายและเวลาในการซ่อมแซม ภายหลังการเปิดใช้งาน ทั้งยังสามารถทำการขัดมันได้โดยไม่ต้องสาดปูน หรือทำ Floor Hardener ให้ยุ่งยาก ทำให้ประหยัดเวลา และสะดวกเร็วรวด
คุณสมบัติ
- มีความทนทาน แข็งแกร่ง ทนต่อการขัดสีได้ดี
- สามารถทำผิวให้เรียบได้ง่าย
- สามารถทำการขัดมันได้โดยไม่ต้องสาดปูน หรือทำ Floor Hardener ให้ยุ่งยาก
- เป็นคอนกรีตที่มีการเยิ้มน้ำต่ำ
- ลดปัญหาการแตกร้าว หรือหลุดร่อนของผิวคอนกรีต สามารถลดค่าใช้จ่ายและค่าเสียเวลาในการปิดซ่อมแซม
เหมาะสำหรับโครงสร้างใด
เหมาะกันงานพื้นที่ต้องรับการขัดสีที่ผิวหน้าคอนกรีตสูง เช่น พื้นโรงงาน พื้นโกดัง พื้นปั้มน้ำมันหรือพื้นที่มีการใช้งานรถหนัก รถที่มีล้อขัดสีกับพื้นสูง เช่นรถ Fork Liftใช้งานเป็นประจำ
คำแนะนำในการใช้งาน และข้อควรระวัง
สำหรับพื้นที่เทบนดิน บดอัด (Slabs on Grade) ให้ทำการบดอัดชั้น Sub-base ให้มีความแน่น (CBR > 95%) เพื่อให้ชั้น Sub-base สามารถรับแรงที่ถ่ายจากพื้นอุตสาหกรรม ได้อย่างปลอดภัย
-
คอนกรีตกำลังอัดสูงซีแพค
ข้อมูลทั่วไป
คือ คอนกรีตผสมเสร็จชนิดพิเศษ ที่ถูกวิจัยและออกแบบ ให้มีกำลังอัด มากกว่า 500 กก./ตร.ซม. (ทรงลูกบาศก์) มาเพื่อตอบสนองความต้องการ การใช้งานในโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแกร่ง หรือ รับน้ำหนักมากเป็นพิเศษ เช่น เสา ปล่องลิฟท์ คาน สะพาน เป็นต้น
คุณสมบัติ
- สามารถลดระยะเวลาในการถอดแบบ และค้ำยัน เนื่องจากการพัฒนากำลังอัดในช่วงต้นที่รวดเร็ว ส่งผลให้ลดเวลาในการก่อสร้างลงได้
- สามารถลดหน้าตัดของโครงสร้างลงได้ โดยที่ยังคงรับน้ำหนักบรรทุกได้เท่าเดิม
- สามารถลดน้ำหนักของโครงสร้างได้ เนื่องจากขนาดโครงสร้างที่เล็กลง ทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง
- เนื่องจากโครงสร้างที่เล็กลง ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้น
- โครงสร้างมีความทึบน้ำ และคงทนมากขึ้น จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาโครงสร้างลดลง และโครงสร้างมีอายุการใช้งานที่มากขึ้น
- เนื้อคอนกรีตมีความไหลลื่น เพราะมีค่ายุบตัวมากกว่า 15 ซม. ทำให้สามารถลำเลียงด้วยปั้มได้โดยสะดวก
- มีกำลังอัดให้เลือกใช้ มากกว่า 500 กก./ตร.ซม. (ทรงลูกบาศก์)
เหมาะสำหรับโครงสร้างใด
- เหมาะสำหรับใช้งานโครงสร้าง เสา คาน ของอาคารขนาดใหญ่ ปล่องลิฟท์ สะพาน เป็นต้น
- เหมาะสำหรับ การใช้งานที่ต้องการถอดแบบเร็ว
-
คอนกรีตความร้อนต่ำซีแพค
ข้อมูลทั่วไป
คือ คอนกรีตที่ถูกออกแบบมาเพื่อควบคุมปริมาณความร้อน เนื่องจากโดยทั่วไป คอนกรีตจะมีการคายความร้อนออกมา หลังจากที่ซีเมนต์ในคอนกรีตทำปฎิกิริยากับน้ำ โดยเฉพาะโครงสร้างที่มีความหนามากกว่า 50 ซม.ขึ้นไป ความร้อนที่สะสมอยู่ภายในโครงสร้างอาจมีอุณหภูมิสูงมากกว่า 70 องศาเซลเซียส จึงก่อให้เกิดความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิที่ผิวและอุณหภูมิภายในโครงสร้าง (Differential Temperature) ทำให้คอนกรีตเกิดการหดตัวและการยึดรั้งที่ต่างกัน ในที่สุดคอนกรีตก็จะแตกร้าว (Thermal Crack) น้ำและความชื้น อาจซึมผ่านโครงสร้างคอนกรีตเข้าไปทำลายเหล็กเสริม ทำให้โครงสร้างไม่สามารถรับน้ำหนักได้ตามที่ออกแบบไว้
คุณสมบัติ
- เป็นคอนกรีตที่ถูกออกแบบมาเพื่อคายความร้อนต่ำกว่าคอนกรีตปกติ
- เนื้อคอนกรีตมีความลื่นไหล เทง่าย จี้เขขย่าได้ง่าย ช่วยลดเวลาการทำงาน
- กำลังอัดในระยะยาวสูงกว่าคอนกรีตทั่วไป
- มีการเยิ้มน้ำ การแยกตัวและหดตัวต่ำ
เหมาะสำหรับโครงสร้างใด
เหมาะสำหรับโครงสร้างที่มีความหนามากกว่า 50 ซม. ขึ้นไป เช่น ฐานรากขนาดใหญ่ คานขนาดใหญ่ เขื่อนคอนกรีต
คำแนะนำในการใช้งาน และข้อควรระวัง
- แบบหล่อด้านข้างควรใช้แบบไม้ เพราะมีค่าความเป็นฉนวนความร้อนที่ดี
- ควรบ่มคอนกรีตหลังการเทด้วยฉนวน เช่น โฟม หรือการเททรายหนาประมาณ 5ซม. เพื่อทำให้อุณหภูมิในโครงการมีค่าใกล้เคียงกัน
- สำหรับฐานรากขนาดใหญ่ที่มีการแบ่งเทเป็นชั้นในแนวนอน ควรคำนึงถึงเหล็กเสริมบน ระหว่างชั้นที่เท เพื่อป้องกันการแตกร้าวของคอนกรีตที่ผิวบน (โปรดพิจารณาให้เป็นไปตามมาตรฐาน ACI 207.2R)
การแบ่งเทฐานรากขนาดใหญ่
- การแบ่งเทแนวตั้ง – ต้องใส่เหล็กเสริมถ่ายแรง (Dowel) เพื่อรับแรงเฉือนแนวดิ่งบริเวณรอยต่อของคอนกรีต
- การแบ่งเทแนวนอน – ต้องใส่เหล็กเสริมถ่ายแรง (Dowel) เพื่อรับแรงเฉือนแนวราบบริเวณรอยต่อของชั้นคอนกรีต รวมทั้งเพิ่มเหล็กเสริมกันแตกที่ผิวบนของคอนกรีตชั้นล่าง
วิธีการบ่มด้วยฉนวน (Insulation Cure) การบ่มคอนกรีตด้วยฉนวนเพื่อควบคุมไม่ให้อุณหภูมิที่ผิวถูกถ่ายเทเร็วเกินไป จนทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิภายในและภายนอก จนทำให้เกิดการหดตัวที่แตกต่างกัน และนำไปสู่การแตกร้าว
การบ่มด้วยฉนวน มีวิธีการ ดังนี้
- คลุมด้วยแผ่นพลาสติก โดยให้รอยต่อของแผ่นพลาสติก วางทับกันและให้มีระยะที่ทับกันไม่น้อยกว่า 15ซม.
- วางโฟมที่มีความหนาอย่างน้อย 2ซม. บนแผ่นพลาสติก
- คลุมทับอีกครั้ง ด้วยแผ่นพลาสติก โดยให้รอยต่อของแผ่นพลาสติก วางทับกันและให้มีระยะที่ทับกันไม่น้อยกว่า 15ซม.
- ควรหาวัสดุวางทับเพื่อไม่ให้แผ่นพลาสติกปลิว
- ในกรณีที่มีการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิของคอนกรีตในโครงสร้าง สามารถพิจารณาระยะเวลาในการปลดฉนวนออก โดยรอจนอุณหภูมิคอนกรีตที่แกนกลางลดลงมาในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดการแตกร้าว (อุณหภูมิที่แกนกลางคอนกรีต สูงกว่า อุณหภูมิอากาศ ไม่เกิน 35 องศาเซลเซียส)
-
คอนกรีตงานห้องเย็นซีแพค
ข้อมูลทั่วไป
คือ คอนกรีตที่ออกแบบมาเพื่อให้มีความสามารถในการต้านทางการแตกร้าว ที่เกิดจากการแข็งตัวของน้ำในคอนกรีต อีกทั้งยังมีความทนทานต่อการขัดสีที่ผิวหน้า จากการใช้งานของรถขนถ่ายสินค้า (Fork Lift) คอนกรีตงานห้องเย็นซีแพค จึงมีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับงานห้องเย็น ห้องแช่แข็ง และ ห้องปรับอุณหภูมิ ซึ่งสามารถทนต่ออุณหภูมิติดลบ ได้ถึง -40 องศาเซลเซียส
คุณสมบัติ
- สามารถทนต่ออุณหภูมิติดลบ ได้ถึง -40 องศาเซลเซียส
- มีความสามารถในการต้านทางการแตกร้าว ที่เกิดจากการแข็งตัวของน้ำในคอนกรีต
- มีความทนทานต่อการขัดสีที่ผิวหน้า จากการใช้งานของรถขนถ่ายสินค้า (Fork Lift)
- เนื้อคอนกรีตมีความหนาแน่นและทึบน้ำสูง
- เป็นคอนกรีตที่มีการเยิ้มน้ำต่ำ
เหมาะสำหรับโครงสร้างใด
เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับงานห้องเย็น ห้องแช่แข็ง และ ห้องปรับอุณหภูมิ ที่มีอุณหภูมิติดลบ ถึง -40 องศาเซลเซียส
-
คอนกรีตทนกรดซีแพค
ข้อมูลทั่วไป
คือ คอนกรีตที่ออกแบบและพัฒนาขึ้น เพื่อยืดอายุการใช้ง่ายของคอนกรีต ในสภาวะถูกกัดกร่อนโดยกรด ด้วยการใส่สารผสมเพิ่มที่มีความละเอียดสูง ทำให้คอนกรีตมีความหนาแน่นและแข็งแรงกว่าคอนกรีตทั่วไป มีความทนทานต่อสภาวะเป็นกรดได้ดี เพราะโครงสร้างคอนกรีตที่อยู่ในสภาวะเป็นกรด เนื้อซีเมนต์และหินทรายจะถูดกรดกัดกร่อน ทำให้เนื้อคอนกรีตถูกทำลายหายไป มีผิวที่ขรุขระเป็นโพล่ง และส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงของโครงสร้าง
คุณสมบัติ
- มีความหนาแน่น และแข็งแรงกว่าคอนกรีตทั่วไป
- มีกำลังอัดให้เลือกใช้ 280-500 กก./ตร.ซม. (ทรงลูกบาศก์)
เหมาะสำหรับโครงสร้างใด
- เหมาะกับโครงสร้างคอนกรีตที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีสภาพเป็นกรด เช่น พื้นที่บริเวณดินเปรี้ยว เช่นในจังหวัดปราจีนบุรี นครนายก
- โรงงานหรือแหล่งผลิต ที่มีการใช้กรดในการผลิต หรือได้กรดจากกระบวนผลิต เช่น โรงงานผักและผลไม้ดอง โรงงานแปรรูปยางพารา โรงงานแบตเตอรี่ บ่อขยะ
- ระบบบำบัดน้ำเสีย และท่อระบายน้ำเสียจากบ้านเรือนและโรงงาน
คำแนะนำในการใช้งาน และข้อควรระวัง
คอนกรีตทนกรดซีแพค ไม่ได้ป้องกันการกัดกร่อนจากสภาวะเป็นกรดได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้มากกว่าคอนกรีตทั่วไป
-
คอนกรีตทนซัลเฟตซีแพค
ข้อมูลทั่วไป
คือ คอนกรีตที่ออกแบบและพัฒนาขึ้น เพื่อให้มีความสามารถในการต้านทานความเสียหายจากซัลเฟต ด้วยหลักการลดสารประกอบบางอย่างในคอนกรีตที่ทำปฎิกิริยากับซัลเฟต ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของความเสียหายที่จะเกิดขึ้น และออกแบบให้คอนกรีตมีเนื้อแน่น เพื่อต้านทานการซึมผ่านของซัลเฟต
คุณสมบัติ
- เนื่องจากมีการลดสารประกอบบางอย่างในคอนกรีตที่ทำปฎิกิริยากับซัลเฟต ทำให้อัตราการขยายตัว และแตกร้าวของเนื้อคอนกรีตลดลง
- ด้วยการออกแบบให้คอนกรีตมีเนื้อแน่น ทำให้สามารถต้านทานการซึมผ่านของซัลเฟตได้ดีกว่าคอนกรีตทั่วไป
- กำลังอัดในระยะยาวสูงกว่าคอนกรีตทั่วไป
- เนื้อคอนกรีตมีความไหลลื่น ทำให้เทและจี้เขย่าได้ง่ายกว่าคอนกรีตทั่วไป
- มีกำลังอัดให้เลือกใช้ 240-400 กก./ตร.ซม. (ทรงลูกบาศก์)
เหมาะสำหรับโครงสร้างใด
โครงสร้างคอนกรีตที่ต้องสัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่มีสารซัลเฟต เช่น ในดิน น้ำใต้ดิน น้ำเสียจากบ้านเรือนและโรงงานอุตสาหกรรม
-
คอนกรีตทนดินเค็มซีแพค
ข้อมูลทั่วไป
คือ คอนกรีตที่ออกแบบมา เพื่อให้มีคุณสมบัติ ต้านทานการซึมผ่านของ คลอไรด์ และ ซัลเฟต ซึ่งสะสมอยู่ในดิน หรือบริเวณแหล่งน้ำใกล้เคียง โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ดินเค็ม ซึ่งคอนกรีตทนดินเค็มซีแพคได้รับการออกแบบให้ถูกต้องตามข้อกำหนดมาตรฐานวัสดุและการก่อสร้าง สำหรับโครงสร้างคอนกรีต (วิศกรรมสถานแห่งประเทศไทย) โดยทั้ง คลอไรด์ และ ซัลเฟต จะส่งผลร้ายต่อโครงสร้างคอนกรีต
คลอไรด์ จะเร่งปฎิกิริยาการเกิดสนิมของเหล็กเสริม ทำให้สนิมเกิดได้เร็วขึ้น ส่วนซัลเฟต จะทำปฎิกิริยากับคอนกรีต ทำให้คอนกรีตเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และมีความแข็งแรงลดลง
โดยมีกำลังอัดรูปทรงลูกบาศก์ (Cube) มาตรฐานให้เลือกใช้ได้ตั้งแต่ 240-400 กก./ตร.ซม. (กรณีที่ต้องการกำลังอัดมากกว่า 400 กก./ตร.ซม. สามารถออกแบบเพิ่มเติมได้)
คุณสมบัติ
ต้านทานการซึมผ่านของ คลอไรด์ และ ซัลเฟต โดยสามารถต้านทานการซึมผ่านของ คลอไรด์ ได้ถึงระดับความเข้มข้น 10,000 – 27,000 ppm และต้านทานซัลเฟตได้ถึงระดับความเข้มข้น 2,200 ppm
เหมาะสำหรับโครงสร้างใด
โครงสร้างที่สัมผัสกับ คลอไรด์ และ ซัลเฟต ที่สะสมอยู่ในดิน หรือบริเวณแหล่งน้ำใกล้เคียง โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ดินเค็ม
คำแนะนำในการใช้งาน และข้อควรระวัง
การควบคุมคุณภาพคอนกรีตหน้างาน
- ไม่ควรเติมน้ำเพื่อให้คอนกรีตมีความเหลวมากขึ้น เพราะจะทำให้คุณสมบัติคอนกรีต ไม่ได้ตามที่ออกแบบไว้
- ควรจี้เขย่าคอนกรีตอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโพรงในคอนกรีต และจะทำให้คอนกรีตมีความแข็งแรง และคงทนเพิ่มขึ้น
การบ่มคอนกรีต
- ควรทำการบ่มชื้นคอนกรีตทันที หลังจากที่คอนกรีตเริ่มเซ็ตตัว อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 14วัน ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การใช้กระสอบเปียกชื้นคลุม แล้วรดน้ำให้ชุ่มตลอดเวลา หรือ ฉีดพรมด้วยน้ำสะอาดให้ชุ่มตลอดเวลา
โครงสร้างและอาคาร หรือสิ่งก่อสร้างพิเศษที่อาจจะต้องใช้วิธีการบ่มที่เหมาะสมอื่นๆ นอกเหนือจากวิธีนี้
-
คอนกรีตชายฝั่งทะเลซีแพค
ข้อมูลทั่วไป
คือ คอนกรีตที่ออกแบบมาเพื่อ ให้มีคุณสมบัติ ต้านทานการซึมผ่านของ คลอไรด์ และ ซัลเฟต ซึ่งมีอยู่ในน้ำทะเล ไอทะเล น้ำกร่อย น้ำใต้ดิน และ ดินเค็ม ซึ่งได้รับการออกแบบให้ถูกต้องตามข้อกำหนดมาตรฐานวัสดุและการก่อสร้าง สำหรับโครงสร้างคอนกรีต (วิศกรรมสถานแห่งประเทศไทย) โดยทั้ง คลอไรด์ และ ซัลเฟต จะส่งผลร้ายต่อโครงสร้าง โดยเฉพาะพื้นที่ ที่อยู่ในระยะห่างจากชายฝั่งทะเล 0-15 กิโลเมตร
คลอไรด์ จะเร่งปฎิกิริยาการเกิดสนิมของเหล็กเสริม ทำให้สนิมเกิดได้เร็วขึ้น ส่วนซัลเฟต จะทำปฎิกิริยากับคอนกรีต ทำให้คอนกรีตเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และมีความแข็งแรงลดลง
โดยมีกำลังอัดรูปทรงลูกบาศก์ (Cube) มาตรฐานให้เลือกใช้ได้ตั้งแต่ 240-400 กก./ตร.ซม. (กรณีที่ต้องการกำลังอัดมากกว่า 400 กก./ตร.ซม. สามารถออกแบบเพิ่มเติมได้)
คุณสมบัติ
- ต้านทานการซึมผ่านของ คลอไรด์ และ ซัลเฟต โดยสามารถต้านทานการซึมผ่านของ คลอไรด์ ได้ถึงระดับความเข้มข้น 10,000 – 27,000 ppm และต้านทานซัลเฟตได้ถึงระดับความเข้มข้น 2,200 ppm
- ต้านทานต่อแรงกระแทกของคลื่น และการขัดสีของกรวดทราย
เหมาะสำหรับโครงสร้างใด
โครงสร้างที่อยู่ในระยะห่างจากชายฝั่งทะเล 0-15 กิโลเมตร หรือโครงสร้างที่ต้องสัมผัสกับน้ำเค็ม น้ำกร่อย หรือ ดินเค็ม เช่น บางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
คำแนะนำในการใช้งาน และข้อควรระวัง
การควบคุมคุณภาพคอนกรีตหน้างาน
- ไม่ควรเติมน้ำเพื่อให้คอนกรีตมีความเหลวมากขึ้น เพราะจะทำให้คุณสมบัติคอนกรีต ไม่ได้ตามที่ออกแบบไว้
- ควรจี้เขย่าคอนกรีตอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโพรงในคอนกรีต และจะทำให้คอนกรีตมีความแข็งแรง และคงทนเพิ่มขึ้น
การบ่มคอนกรีต
- ควรทำการบ่มชื้นคอนกรีตทันที หลังจากที่คอนกรีตเริ่มเซ็ตตัว อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 14วัน ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การใช้กระสอบเปียกชื้นคลุม แล้วรดน้ำให้ชุ่มตลอดเวลา หรือ ฉีดพรมด้วยน้ำสะอาดให้ชุ่มตลอดเวลา
- โครงสร้างและอาคาร หรือสิ่งก่อสร้างพิเศษที่อาจจะต้องใช้วิธีการบ่มที่เหมาะสมอื่นๆ นอกเหนือจากวิธีนี้
-
คอนกรีตกันซึมซีแพค
ข้อมูลทั่วไป
คอนกรีตกันซึมซีแพค (CPAC Waterproof Concrete) คือ คอนกรีตที่ใช้งานอย่างแพร่หลาย ที่ซีแพควิจัยและพัฒนาขึ้นเพื่อให้มีคุณสมบัติกันซึม และมีความทึบน้ำสูง โดยได้รับการออกแบบให้ถูกต้องตามข้อกำหนดมาตรฐานวัสดุและการก่อสร้าง สำหรับโครงสร้างคอนกรีต (วิศกรรมสถานแห่งประเทศไทย) จึงเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับโครงสร้างที่สัมผัสน้ำ หรือความชื้นตลอดเวลา เช่น สระว่ายน้ำ ถังเก็บน้ำ พื้นห้องน้ำฐานราก* คานคอดิน โดยมีกำลังอัดรูปทรงลูกบาศก์ (Cube) มาตรฐานให้เลือกใช้ได้ตั้งแต่ 240-400 กก./ตร.ซม. (กรณีที่ต้องการกำลังอัดมากกว่า 400 กก./ตร.ซม. สามารถออกแบบเพิ่มเติมได้)
*กรณีฐานรากที่มีความหนา มากกว่า 50 ซม. ควรพิจารณาใช้คอนกรีตความร้อนต่ำซีแพค
คุณสมบัติ
- มีความทึบน้ำ ต้านทานการซึมผ่านของน้ำได้ดี ป้องกันความชื้นที่จะเข้ามาทำปฎิกิริยาต่อเหล็กเสริม จนทำให้เกิดสนิม และเกิดความเสียหายต่อความแข็งแรงของโครงสร้าง
- สัมประสิทธิ์การซึมผ่านของน้ำ น้อยกว่า 10-12 ม./ วินาที
- ระยะการซึมผ่านของน้ำ ไม่เกิน 50มม.(มาตรฐานการทดสอบ BS EN 12390 Part 8)
เหมาะสำหรับโครงสร้างใด
เหมาะสำหรับการใช้งาน ในโครงสร้างคอนกรีตที่มีวัตถุประสงค์เพื่อกักเก็บน้ำ หรือจำเป็นต้องสัมผัสน้ำหรือความชื้นโดยตรง เช่น สระว่ายน้ำ ถังเก็บน้ำ พื้นห้องน้ำ รวมทั้งโครงสร้างที่ต้องสัมผัสน้ำใต้ดิน เช่น ฐานราก คานคอดิน ห้องใต้ดิน หรืออุโมงค์
คำแนะนำในการใช้งาน และข้อควรระวัง
- การเตรียมการที่ถูกต้องก่อนการเทคอนกรีต เช่น รอยต่อของโครงสร้าง การใส่อุปกรณ์ Water Stop ตำแหน่งการวางเหล็กเสริม ระยะหุ้มเหล็กเสริม การทาน้ำยาไม้แบบ
- กรณีที่เป็นการเทโครงสร้างในส่วนของพื้นดาดฟ้า ควรเลือกใช้ คอนกรีตพื้นดาดฟ้าซีแพค ซึ่งมีการออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานโดยเฉพาะ โดยมีคุณสมบัติ กันซึม และป้องกันการแตกร้าวของคอนกรีต เนื่องจากสภาวะแวดล้อมที่มี ลมแรง และ อุณหภูมิสูงจากแสงแดด ในช่วงที่คอนกรีตยังไม่แข็งตัว
- การเทคอนกรีตที่ถูกวิธี การเทคอนกรีตโดยป้องกันไม่ให้เนื้อคอนกรีตแยกตัว เครื่องมือที่จะใช้เทหรือลำเลียงคอนกรีตที่เหมาะสมกับสถาพหน่วยงานหรือโครงสร้าง เช่น ราง เครน ปั๊ม และการกำหนดระยะตกของคอนกรีต (Free Fall) สำหรับการเทโครงสร้างสูงๆ เพื่อป้องกันคอนกรีตเกิดการแยกตัว
- การอัดคอนกรีตให้แน่นในแบบหล่อ โดยการใช้เครื่องจี้เขย่าและวิธีที่ถูกต้องในการจี้เขย่า เช่น ระยะห่างของการจุ่มหัวจี้เขย่า ระยะความลึกของการจุ่มหัวจี้เขย่า แนวการวางหัวจี้เขย่า
การบ่มคอนกรีต
- ควรทำการบ่มชื้นคอนกรีตทันที หลังจากที่คอนกรีตเริ่มเซ็ตตัว อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 14วัน ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การใช้กระสอบเปียกชื้นคลุม แล้วรดน้ำให้ชุ่มตลอดเวลา หรือ ฉีดพรมด้วยน้ำสะอาดให้ชุ่มตลอดเวลา
- โครงสร้างและอาคาร หรือสิ่งก่อสร้างพิเศษที่อาจจะต้องใช้วิธีการบ่มที่เหมาะสมอื่นๆ นอกเหนือจากวิธีนี้
การป้องกันการแตกร้าวของคอนกรีต
สำหรับการป้องกันการแตกร้าวของคอนกรีตจากการหดตัวแบบแห้ง (Drying Shrinkage Crack) ซึ่งคอนกรีตโดยทั่วไปหลังจากแข็งตัว จะมีการหดตัวเกิดขึ้นจากการที่น้ำในคอนกรีตระเหยไป ทำให้เกิดการยึดรั้งในโครงสร้างและเกิดการแตกร้าวตามมาได้ ดังนั้นโครงสร้างที่เทลักษณะเป็นแนวยาวมากๆ เช่น ผนัง กำแพง แผ่นพื้น ควรพิจารณาการแตกร้าวเนื่องจากการหดตัวของคอนกรีตประกอบด้วย ซึ่งการออกแบบเพื่อควบคุมการแตกร้าวนั้น ควรต้องทำการออกแบบโดยวิศวกรผู้ชำนาญเฉพาะด้าน
-
คอนกรีตสำหรับงานเข็มเจาะใหญ่ซีแพค
ข้อมูลทั่วไป
คือ คอนกรีตที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการเทโครงสร้างเสาเข็มเจาะใหญ่ หรือ เข็มเจาะระบบเปียก ซึ่งเป็นเสาเข็มที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง ตั้งแต่ 60 ซม.ขึ้นไป ซึ่งจะเจาะลงไปในดินที่ความลึกตั้งแต่ 40 เมตร เป็นต้นไป มีความสามารถในการเทได้ดี มีความไหลลื่นสูง โดยที่เนื้อคอนกรีตไม่เกิดการแยกตัว และอายุในการทำงานนานกว่าคอนกรีตทั่วไป (มากกว่า 3ชม.)
คุณสมบัติ
- มีความสามารถในการเทได้สูง โดยที่คอนกรีตไม่เกิดการแยกตัว
- สามารถทำงานได้นานกว่าคอนกรีตทั่วไป (มากกว่า 3 ชั่วโมง)
- คอนกรีตสำหรับงานเข็มเจาะใหญ่ซีแพคจะมีค่ายุบตัวประมาณ 15-23 เซนติเมตร เพื่อให้สามารถเทลงหลุมเข็มเจาะได้ง่าย และอัดแน่นคอนกรีตได้ต่อเนื่องไม่เกิดรูโพรงเกิดขึ้น
- มีกำลังอัดให้เลือกใช้ 280-400 กก./ตร.ซม. (ทรงลูกบาศก์)
เหมาะสำหรับโครงสร้างใด
เหมาะสำหรับใช้งานโครงสร้างเสาเข็มเจาะ ของอาคารขนาดใหญ่
คำแนะนำในการใช้งาน และข้อควรระวัง
เนื่องจากกระบวนการก่อสร้างคอนกรีตเข็มเจาะใหญ่ค่อนข้างจะมีรายละเอียด การใช้งานอุปกรณ์และขั้นตอนต่างๆ ต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวด ดังนั้นควรมีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญควบคุมการก่อสร้าง หลังจากการทำเข็มเจาะใหญ่แล้วควรมีการตรวจสอบความต่อเนื่องของเข็มเจาะเพื่อความมั่นใจในการรับกำลังของโครงสร้าง
-
คอนกรีตสำหรับงานเข็มเจาะเล็กซีแพค
ข้อมูลทั่วไป
คือ คอนกรีตที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการเทโครงสร้างเสาเข็มเจาะเล็ก หรือ เข็มเจาะระบบแห้ง (Dry Process) ซึ่งเป็นเสาเข็มที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 35-60 ซม. โดยทั่วไปจะใช้อุปกรณ์ในการเจาะดินที่เรียกว่า สามขา (Tripod) ซึ่งจะเจาะลงไปในดินที่ความลึกประมาณ 21 เมตร
คุณสมบัติ
- เทได้ง่ายและไม่แยกตัว
- สามารถทำงานได้นานกว่าคอนกรีตทั่วไปเนื่องจากขั้นตอนการทำงานเสาเข็มจะใช้เวลาการทำงานยาวนานกว่าการเทคอนกรีตปกติ
- สามารถลดปัญหาเสาเข็มไม่สมบูรณ์หรือเป็นรูโพรง
- มีกำลังอัดให้เลือกใช้ 240-400 กก./ตร.ซม. (ทรงลูกบาศก์) และมีค่ายุบตัวขั้นต่ำ 7.5-12.5 เซนติเมตร
เหมาะสำหรับโครงสร้างใด
เหมาะสำหรับงานเข็มเจาะเล็กบ้านพักอาศัยและอาคารพาณิชย์ และโครงสร้างขนาดเล็กจนถึงขนาดกลาง
คำแนะนำในการใช้งาน และข้อควรระวัง
- ระวังไม่ให้น้ำเข้าไปในหลุมเจาะ เพราะอาจจะทำให้หลุมเจาะพังทลาย ก่อนการวางเหล็กเสริมและเทคอนกรีต
- ระวังไม่ให้มีวัสดุแปลกปลอมเข้าไปในหลุมเจาะ เพราะจะทำให้เนื้อคอนกรีตเข็มเจาะไม่สมบูรณ์
คอนกรีตควรมีระยะตกอิสระไม่เกิน 1.5เมตร หากมีระยะตกอิสระมากกว่า 1.5เมตร ควรมีท่อช่วยเทเพื่อไม่ให้เนื้อคอนกรีตแยกตัว
-
คอนกรีตมาตรฐาน
ข้อมูลทั่วไป
คือ คอนกรีตปกติที่ใช้กันทั่วไป ที่ออกแบบให้มีกำลังอัดตั้งแต่ 180-400 กก./ตร.ซม. (โดยทั่วไปแล้ว กำลังอัดของคอนกรีต จะพัฒนาได้อย่างสมบูรณ์ ต้องใช้เวลา 28วัน นับตั้งแต่ผลิต) เหมาะสำหรับการนำไปใช้ในโครงสร้างทั่วไป เช่น เสา คาน ฐานราก พื้น เป็นต้น การเลือกใช้ คอนกรีตผสมเสร็จ เป็นการลดปัญหาโครงสร้าง ที่เกิดจาก ส่วนผสมที่ไม่แน่นอนและมีกำลังอัดที่ไม่ได้มาตรฐาน จากการผสมคอนกรีตเอง
คุณสมบัติ
- มีกำลังอัดให้เลือกใช้ ตั้งแต่ 180-400 กก./ตร.ซม. (ทรงลูกบาศก์)
- มีค่ายุบตัว ให้เลือกใช้ให้เหมาะกับโครงสร้างและวิธีการเท 3 ระดับ คือ
- 7.5 +/- 2.5ซม.
- 10.0 +/- 2.5ซม.
- 12.5 +/- 2.5ซม.
- ลดปัญหาการผสมมือที่มีส่วนผสมที่ไม่แน่นอน และได้กำลังอัดไม่เป็นไปตามที่ออกแบบไว้
เหมาะสำหรับโครงสร้างใด
เหมาะสำหรับใช้งานโครงสร้างทั่วไป เช่น เสา คาน ฐานราก พื้น เป็นต้น
คำแนะนำในการใช้งาน และข้อควรระวัง
- สำหรับโครงสร้างพื้น ควรเลือกคอนกรีตผสมเสร็จ ที่มีกำลังอัด เหมาะสมกับการใช้งาน และมีขั้นตอนการเตรียมงานและการทำงานพื้นที่ถูกต้องตามมาตรฐาน เพื่อให้งานพื้นได้คุณภาพและใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น
คอนกรีตผสมเสร็จมีหลายแบบ ซึ่งผู้ซื้อต้องเลือกตามความเหมาะสมกับหน้างาน หรือท่านต้องการสอบถามราคาคอนกรีต หรือสอบการเลือกซื้อคอนกรีต ติดต่อได้ที่ 088 554 1555 | 02 328 0684 หรือ Line : @mtcement